Full width home advertisement

Post Page Advertisement [Top]



เข้าสู่ฤดูร้อนแล้วสินะ สภาพอากาศร้อนๆ อย่างนี้ เขาบอกว่า มีวิธีคลายร้อนที่ดีวิธีหนึ่ง นั่นคือ การรับประทานข้าวแช่ ซึ่งคนไทยนิยมรับประทานข้าวแช่กันมาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อคลายร้อนกันค่ะ

สอดรับกับหน้าร้อนปีนี้ เอสแอนด์พี เขาจัดกิจกรรมเวิร์คชอปข้าวแช่ตำรับ “สำรับจริตไทย” เพื่อสืบสานตำนานอาหารไทยสมัยโบราณที่ปัจจุบันหาทานได้ยาก เพราะว่ามีกระบวนการทำที่พิถีพิถันเป็นอย่างมาก ... เราอยากรู้ จึงขอตามไปร่วมกิจกรรมทำข้าวแช่กับเขาสักหน่อยสิ ...เพื่อจะได้เก็บมาเล่าให้ฟังกันค่ะ

ตัดเข้าไปที่ห้องครัวกันเลยแล้วกัน... 

ภายในห้องครัว เชฟจะจัดเตรียมเครื่องเคียงต่างๆ ไว้รอเราแล้วค่ะ ...มีอะไรบ้างล่ะ ?

ไข่(ไก่) ...ในขวดพลาสติก สำหรับไว้บีบโรยทำไข่ฝอย(เหมือนทำขนมฝอยทอง) และในถ้วยเล็กสำหรับไว้ชุบลูกกระปิทอด


ลูกกะปิ ...เชฟปรุงและปั้นไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ (ผสมผสานกระปิอย่างดี ปลาเนื้ออ่อนย่าง กุ้ง และสมุนไพรไทย)

พริกหยวกสอดไส้ปูจ๋า ... เชฟปรุงจากเนื้อปูและเนื้อไก่สอดไส้พริกหยวกนึ่งเตรียมไว้ให้แล้ว

หมูฝอยหวาน ...อยู่ในถุงพร้อมจัดเป็นเซต (หมูปรุงรสที่นำมานึ่งสุก ฉีกเป็นเส้นเท่าๆ กัน แล้วนำไปทอด)

ไชโป๊หวาน ...อยู่ในถุงเรียบร้อยแล้ว ...เชฟปรุงไว้ให้แล้วเช่นกัน

ผักสดแกะสลัก และผักสลัด ... เชฟก็แกะสลักอย่างสวยงามไว้อีกด้วย






เราจะทำหน้าที่เชฟมือใหม่ในขั้นตอนต่อจากนี้ค่ะ.... เริ่มเลยนะคะ

ติดไฟ รอดูว่ากระทะร้อนได้ที ทำแต่ละขั้นตอนตามเชฟบอก...

- โรยไข่จากขวด(พลาสติก) ลงในกระทะที่มีน้ำมันร้อนได้ที่ โรยวนไปวนมาเหมือนทำขนมฝอยทอง (ต้องยกบีบสูงๆ หน่อยนะคะ ไข่จะได้เป็นเส้นเล็กๆ แต่ตอนเราทำยกไม่ค่อยสูง ตื่นเต้นค่ะ จึงไม่ค่อยเป็นเส้นสักเท่าไร) โรยตามความเหมาะสม ไม่มากไม่น้อย (พอดีกับกระทะ) ... รอดูว่าเหลืองได้ที่ ก็ใช้ไม้ช้อนขึ้นมาวางบนกระชอน (วางแบบพับครึ่งเหมือนพับฝอยทอง) ... จากนั้นก็จัดวางในจานไว้ก่อน (เราจะนำกระปิทอดมาวางบนไข่ฝอยแพนี้ตอนจัดเป็นเซต) ...ไปทอดกระปิกันต่อค่ะ




- นำกระปิปั้น ชุบไข่ที่เตรียมไว้(เซตละ 7 ลูก) ลงไปทอดในกระทะทีละลูก ...พอลูกกระปิเริ่มลอยขึ้นมา เราก็ใช้กระชอนตักไว้ก่อน(ยังไม่ยกขึ้นนะคะ) แล้วส่ายกระชอนเบาๆ ซ้าย ขวา(อยู่ในกระทะ) จนกระปิสุกเหลือง ...จากนั้นก็นำไปวางบนแพไข่ฝอยที่ทอดไว้ก่อนหน้านี้




- ทอดไข่ฝอยอีก 1 แพ สำหรับห่อพริกหยวกสอดไส้ปูจ๋า ...โรยไข่ในกระทะกันเลยค่ะ คราวนี้ใช้กระชอนช้อนขึ้นมา(ไม่ใช้ไม้ล่ะ)เมื่อเห็นว่าไข่เริ่มออกสีเหลืองอ่อนๆ เตรียมพร้อมที่จะนำพริกหยอดสอดไส้ลงไปวางทับบนแพไข่ แล้วใช้ที่คีบหมุนพันให้สวยงาม แล้วยกมาวางจัดในจาน



- จัดเตรียมกล่อง(เพื่อจัดเซต) ... กล่องหนึ่งจะมี 4 ช่อง คือ ช่องที่ 1 ใส่ข้าว(เชฟเตรียมใส่ถุงไว้แล้ว) ช่องที่ 2 ใส่ผักสดแกะสลักจัดสวยงาม(เริ่มจากผักสลัดตามด้วย ต้นหอม มะม่วง และแครอท พริกชี้ฟ้าแดง กระชาย หรือจัดให้สวยงามตามใจเราอะไรก่อนหลังก็ได้) ช่องที่ 3 นำไชโป๊หวานมาวางบนผักสลัด และช่องที่ 4 ใหญ่สุด เราจะวางพริกหยวกสอดไส้ไว้ตรงกลาง แล้ววางลูกกระปิบนไข่ฝอยคนละด้านกับหมูฝอยหวาน ...เสร็จแล้วค่ะ





เซตนี้เชฟให้เรานำกลับบ้านได้ ... ตามไปดูวิธีกินข้าวแช่กับเราที่บ้านกันต่อค่ะ




วิธีการที่(ไม่ค่อย)ละเมียดละไม ?

ขอเล่าให้ฟังอย่างเดียวนะคะ (ไม่มีภาพประกอบค่ะ) ...จัดเครื่องเคียงใส่จาน ข้าวแช่ใส่ถ้วยเทน้ำข้าวแช่ดอกมะลิลงไป เติมน้ำแข็งจากตู้เย็นลงไปสักก้อน ... ขอบอกกว่าว่าวิธีการกินอาจจะไม่ค่อยละเมียดสักเท่าไร แต่ก็ลองจินตนาการตามมาเลยค่ะ...

...จีบมือซ้ายหยิบลูกกระปิใส่ปาก(ลิ้นรับรู้ถึงกลิ่นปลาย่างและกลิ่นสมุนไพร)คู่กับมะม่วง มือขวาถือช้อนตักข้าวแช่ใส่ปาก ตามด้วยน้ำข้าวแช่(หอมดอกมะลิ เย็นชื่นใจ) ... คำต่อๆ ไป ก็(ไม่)ละเมียดละไมจีบมือซ้าย หยิบเครื่องเคียงนั่น ผสมนี่ ผัดสลัดห่อหมูฝอยเพิ่มไชโป้หวานนิดก็ลงตัว ลองพริกหยวกสอดไส้ปูจ๋าคู่กับกระชายบ้าง ลองไป ลองมา รู้ตัวอีกที หมดแล้วค่ะ ... อิ่มจัง !

ถึงแม้ว่าการได้ไปเรียนรู้วิธีการทำข้าวแช่ของเราในวันนี้ จะไม่ได้เรียนลึกถึงกรรมวิธีการทำตั้งแต่เริ่มทำเครื่องปรุง แต่เราบอกได้เลยว่า ...เราสามารถนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้ ไปต่อยอดทำเองได้เลยค่ะ ส่วนผสมต่างๆ หาดูจากแหล่งข้อมูลมากมายหลายสำนัก มาปรับ(ประยุกต์)เป็นสูตรของตนเอง ในอนาคตเราอาจจะมีสูตรเฉพาะของเราก็เป็นได้ ใครจะรู้ ?

หากใครอยากคลายร้อนลองเข้าครัวทำข้าวแช่กันดูสิคะ แต่ถ้าคิดว่ายุ่งยากเกินไป ซื้อเขาน่าจะเป็นทางออกที่ดีนะคะ


---------------------------------

ขอเพิ่มเติมข้อมูลนิดนึงค่ะ

** ประวัติความเป็นมาของข้าวแช่(สั้นๆ) ... เขาบอกว่า... ข้าวแช่ เนี่ย เดิมทีเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวมอญโบราณ ที่นิยมทำขึ้นเพื่อบูชาเทพยดาฟ้าดินช่วงตรุษสงกรานต์ ด้วยความที่คนไทยกับคนมอญมีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน ทำให้ข้าวแช่แพร่หลายมาสู่สำรับไทย และเริ่มเข้าสู่สำรับชาววัง เมื่อขุนนางฝ่ายในที่เป็นชาวมอญ ที่ทำงานอยู่ในวัง ได้ปรุงข้าวแช่ถวายเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ข้าวแช่จึงเริ่มจากชาววัง และแพร่หลายมาสู่คนธรรมดา ซึ่งเป็นภูมิปัญหาของคนไทยโบราณ ที่หาวิธีการคลายร้อนค่ะ ...

** อยากกินข้าวแช่อย่างเรา และถ้าไม่อยากทำกินเอง ลองแวะไปที่นี่ดูสิคะ ... ร้าน เอส แอนด์ พี ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาในสนามบิน) หรือ โทร 1344 หรือเว็ปไซต์ 1344delivery.com หรือสั่งผ่านแอป “S&P Delivery”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Bottom Ad [Post Page]

| Designed by Colorlib