วัดอาซากุสะ คือไฮไลท์สำคัญของเราในการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้เลยนะ ด้วยเหตุผลที่ว่า เราอยากไปเค้าท์ดาวน์ที่นั่น และเที่ยวงานวัด ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็อยากจะไปถ่ายรูปโคมแดง(อีกสักครั้ง) และขอพรเจ้าแม่กวนอิม(ความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ) ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์
ขอเล่าประวัติ(สั้นๆ)ของเจ้าแม่กวนอิมนิดนึงนะคะ ...ตามที่เขาเล่ามาว่า... นามมาแล้ว มีพี่น้องสองคน ออกไปหาปลาเป็นประจำ มีวันหนึ่งหาปลาไม่ได้เลยสักตัว จึงอธิฐานขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย แต่แทนที่จะได้ปลา กลับได้รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขึ้นมา พวกเขาจึงนำเจ้าแม่กวนอิมไปให้กับหัวหน้าหมู่บ้าน ต่อมาหัวหน้าหมู่บ้านได้สร้างวัดเล็กๆ ภายในบริเวณบ้านของตนเอง ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เพื่อให้คนในหมู่บ้านได้มากราบไหว้ บูชา ทั้งชาวบ้านและเหล่าซามูไรมักจะมาขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมเป็นประจำ และสิ่งที่ขอพรไปนั้นก็มักจะสมปรารถนาอยู่เสมอ จนเลื่องลือไปทั่วญี่ปุ่น (ลองไปหาอ่านเพิ่มเติมกันดูค่ะ)
เล่าเรื่องเที่ยวงานวัดต่อค่ะ
วันนี้เรามาวัดนี้ 2 รอบ (เราพักไม่ไกลจากวัด) คือ รอบเช้า 8 โมง มาขอพรเจ้าแม่กวนอิม เพราะเรากลัวว่าถ้ามาตอนกลางคืน ไม่น่าจะได้เข้าไปขอพรถึงหน้าแท่นประดิษฐานได้ ...เช้านี้หิมะตกด้วยค่ะ
เริ่มขอพรกันเลยค่ะ ... เคยได้ยินมาว่า ให้กวักควันธูปเข้าหาตัวเอง แล้วอธิฐานขอพรอะไรก็ได้(คิดในใจไม่มีใครรู้) สิ่งที่ขอจะสมหวัง (ความเชื่อส่วนบุคคล) ... ทำตามเขาค่ะ (เชื่อคนง่าย ?) ...
ลองเสี่ยงเซียมซีดูหน่อยสิ ... ไม่ค่อยดีเท่าไร แขวนไว้ไม่ต้องเอากลับ ... ไปกันเถอะ แวะชมร้านค้าข้างทางนิดนึงค่ะ
เสร็จจากขอพรรอบเช้ากันแล้ว ... ขอไปเที่ยวที่อื่นก่อนนะคะ คืนนี้จะกลับมาใหม่
21.00 น. กลับมาวัดอีกครั้งเพื่อร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่พร้อมกัน... ทางเข้าวัดแออัดไปด้วยฝูงชนที่รอต่อคิวเพื่อขอพรเจ้าแม่กวนอิม ... เดินเข้ามาภายในบริเวณงานวัด ดูคึกคัก ครึกครื้นจังเลย ...นี่คือบรรยากาศงานวัด(ญี่ปุ่น)ยามค่ำคืนที่เราอยากมาเที่ยวสักครั้ง !
อันที่จริง เราเจอบรรยากาศงานวัดแบบนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว (19 ธ.ค. 2559) แต่ว่าตอนนั้นไปช่วงเช้า(กลางวัน) ซึ่งหลังจากขอพรเจ้าแม่กวนอิม ก็แค่เดินชมโน้น ชมนี่ ถ่ายรูป แล้วก็ไปเที่ยวกันต่อ ...แต่ปีนี้ (31 ธ.ค. 2560) เราได้มาสัมผัสบรรยากาศงานวัดญี่ปุ่นอย่างแท้จริง (คิดว่าอย่างนั้น)
มาดูสิว่า งานวัดแห่งนี้มีอะไรกันบ้าง ?
บริเวณรอบๆ วัดแห่งนี้ จะมีร้านค้าเล็กๆ (ซุ้มผ้าใบชั่วคราว) เรียงราย ขายทั้งอาหารพื้นเมือง สินค้าพื้นเมืองต่างๆ มากมาย ...เดินดูไปเรื่อยๆ ใครชอบอะไร ก็ซื้อมาลองชิม ลองกินกันดูค่ะ
* ขนมหวานพื้นเมือง ...ร้านแรกที่เราเจอ ทำกันใหม่ๆ ราคา 1 ชิ้น 200 เยน ถ้าซื้อ 3 ชิ้น 500 เยน ...ลองดูสิ 3 ชิ้นแล้วกัน ...กรอบ หวาน(จัง)
* ข้าวโพดปิ้ง ... ขอลองสักฝักสิ ...รสชาติก็เหมือนๆ บ้านเรานี่แหละ ...ข้าวโพดปิ้งที่นี่ เขาจะต้มก่อนปิ้งค่ะ
* ทะโกะยากิ ... ปลาหมึกชิ้นใหญ่มาก น่ากินจัง ...มีคิวด้วยค่ะ แต่รอไม่นาน ...ซื้อมาลองชิมหน่อยสิ (ไม่ค่อยถูกปากเท่าไรนัก อาจเป็นเพราะติดใจรสชาติที่ขายในไทยมากกว่า)
* เนื้อย่าง ... ร้านนี้คงขายดีน่าดู มีทั้งหมู เนื้อ ปลาหมึก กุัง น่ากินทุกอย่างเลย
* ผลไม้ลูกกวาด ... เป็นผลไม้สดซุปน้ำเชื่อม(น้ำตาล) กรอบๆ คล้ายลูกอมเคลือบคาราเมล (ประมาณนั้น) มีผลไม้หลายชนิดให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่ ส้ม องุ่น ฯ ...ลองสักไม้สิ สตรอว์เบอร์รี่แล้วกัน ...หวานดีนะ
* เครื่องรางก็มีนะ ... เคยซื้อที่วัดนาริตะ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว(2559)
เล่าไม่หมดหรอกค่ะ เพราะว่าไม่รู้จักชื่อและชนิดของอาหาร ลองดูภาพประกอบ(บางส่วน)เลยนะคะ
วันนี้ขอตัวกลับก่อนนะคะ... ขากลับนี่ ต้องลัดเลาะ เบียดเสียดผู้คนมาทางด้านซ้ายมือ(มุ่งไปด้านหน้าวัด) โซนที่เขาเคาะระฆังกันค่ะ ... รถไฟใต้ดินก็แน่นสุดๆๆ
...เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่เก็บมาเล่าให้ฟังค่ะ
----------------------------------------------
**วิธีการเดินทางของเรา ... เรานั่งรถไฟใต้ดินลงที่สถานีอาซากุสะ (เดินไม่ไกล) ... หลังจากลงรถ แตะบัตรออกมา เดินตรงไปขึ้นลิฟท์ ...ออกจากลิฟท์(ประตูทางออกด้านบนสถานี) เลี้ยวซ้ายออกจากสถานี จากนั้นก็เลี้ยวขวา(อาจจะงงๆ แต่ถ้าไปถึงแล้วไม่หลงหรอกค่ะ) เดินตรงไปก็เห็นโคมแดงเลยค่ะ (จากที่สังเกตุ... ลิฟท์ที่อยู่ภายในแต่ละสถานี จะขึ้น-ลง บริเวณใกล้ๆ ทางเข้า-ออกสู่ถนน)**
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น