Full width home advertisement

Post Page Advertisement [Top]



จากการทดลองเปิดให้บริการรถไฟขบวนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งทดลองเปิดให้บริการ 6 เดือน เริ่ม 17 มีนาคม ถึง 30 กันยายน 2561 เฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ... เราได้ปักหมุดเที่ยวไว้แล้วค่ะ

เราซื้อตั๋ววันศุกร์ก่อนวันเดินทาง(2วัน)ที่สถานีลาดกระบังค่ะ(ผ่านทุกวัน) ...เหลือ 7 ที่นั่งเท่านั้น เราไป 3 คน แยกนั่งคนละที่เลย ...แต่ก็ไม่เป็นไร  ขอให้มีที่นั่ง

กำหนดการเดินทางมาถึงแล้ว... วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2561 เวลา 07.28 น. เวลารถออกจากสถานีลาดกระบัง ... พร้อมค่ะ



บรรยากาศบนรถไฟขอบอกเลยว่า สนุกสนาน เหมือนไปเป็นหมู่คณะ (เรานั่งโบกี้ 2) ... เหมือนไปทัศนะศึกษาเลย ...ถ่ายรูป แลกเปลี่ยนพูดคุยกัน บางคนมาไกลจากมาเลเซีย คุณป้านายพลที่เกษียณราชการ คุณพ่อพาลูกชายเที่ยว คุณแม่มากับลูกสาว นักศึกษามากับเพื่อน ทั้งชาย และหญิง คู่รักพากันเที่ยว ฯลฯ

หมุดของเราอยู่ที่ "สวนนงนุชพัทยา" 

เขาบอกว่า... สวนนงนุชเป็นสวนที่สวยที่สุดติด 1 ใน 10 อันดับสวนสวยโลก และยังเป็นหนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียอีกด้วย ... สวนนงนุชแห่งนี้ เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2523 (ค.ศ.1980) ปัจจุบันผู้ที่เข้ามาบริหารและพัฒนา เป็นทายาทคนที่ 2 คือคุณกัมพล ตันสัจจา สวนนงนุชแห่งนี้ มีพื้นที่ประมาณ 1,700 ไร่ แบ่งเป็นเนอสเซอรี่ต้นไม้ 800-900 ไร่ ที่เหลือเปิดให้บริการทั้งหมด โดยมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาใช้บริการเฉลี่ยวันละกว่า 8,000 คน (เขาว่าอย่างนั้น)



เดินทางถึงสถานีนงนุชตรงเวลาค่ะ (09.38 น.) ... น้องแบล็ก(เจ้าหน้าที่ของสวน) พร้อมด้วยรถชมวิว รอรับเราที่สถานีแล้วค่ะ ... ขึ้นรถกันเลย (ระหว่างอยู่บนรถไฟ เจ้าหน้าที่บนรถไฟได้แจ้งไว้แล้วว่า จะมีรถของสวนมารอรับ ซึ่งเราสามารถใช้บริการของเขาได้)



ระยะทางจากสถานีรถไฟนงนุช เข้าไปในบริเวณสวนนงนุช 1 ไม่ไกลค่ะ(ประมาณ 800 เมตร?) น้องแบล็ก ได้อธิบายถึงแพคเกจพิเศษที่สวนนงนุชจัดควบคู่ไปกับรถไฟขบวนพิเศษนี้ตลอดระยะเวลา 6 เดือน (สิ้นสุดพร้อมการทดลองเปิดบริการของการรถไฟ) ... ราคา(แพคเกจ)คนละ 450 บาท โดยสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ(ทั้งหมด) คือ ค่าผ่านประตู(ปกติ 150 บาท)  ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยและการแสดงช้างแสนรู้(ปกติ 500 บาท) นั่งรถชมรอบสวน 1 รอบ (ปกติ 60 บาท) และแถมเรียนทำอาหารฟรี(ปกติ 400 บาท) ... แต่ถ้าใครไม่ซื้อแพคเกจ ก็สามารถนั่งรถไปพร้อมกันกับเราได้ค่ะ แต่จะเสียค่าผ่านประตู 150 บาท จากนั้นก็แยกชมสวนตามอัธยาศัย หากจะชมการแสดงก็เสียค่าบัตรตามอัตราปกติแต่ละจุด

พวกเราที่เดินทางไปโดยรถไฟขบวนนี้กันมีทั้งหมด 22 คน(มาจากทั้ง 3 โบกี้) ตกลงซื้อแพคเกจนี้กันค่ะ ...ตามเรามาดูภายในสวนนงนุช 1 กันก่อนค่ะ

10.30 น. ไปโรงละครนงนุชเธียร์เตอร์ ...ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยและศิลปะไทยร่วมสมัย ...เข้าไปเลยค่ะ ...บรรยากาศเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ แอร์เย็นฉ่ำ

การแสดงเริ่มแล้วค่ะ... ชุดแรกเป็นการแสดงที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์และศิลปะของไทย 4 ภาค ต่อด้วยขบวนแห่นาค (แห่กองยาว)ที่วนขึ้นมาบนเวทีกันเลยทีเดียว ชกมวยไทย  อัปสราฟ้อนรำ  ตีกลองสะบัดชัย ชุดการแสดงศิลปะไทยร่วมสมัย 4 ภาค , ยุทธหัตถีบนหลังช้าง ฯลฯ ... แสง สี เสียง เร้าใจคนดูเป็นอย่างยิ่ง การแสดงแต่ละชุด อลังการมากๆ ไม่อยากกระพริบตากันเลยทีเดียว ... จบแล้วค่ะ (ภาพบางส่วน)






ไปชมการแสดงช้างแสนรู้(โชว์ความสามารถ) กันต่อเลยค่ะ ...ออกจากโรงละคร แล้วเดินตรงไป (ตามๆ เขาไป) แต่อยู่ภายในหลังคาเดียวกันนี่แหละค่ะ ไม่ไกล ...

หาที่นั่งเหมาะๆ ... ดูช้างโชว์ความสามารถพิเศษกันเลยค่ะ ... มีอะไรบ้างล่ะ ? ...เตะบอล ปา(เป้า)ลูกโปร่ง โยนโบล์ลิ่ง เล่นห่วงยาง(ฮูล่าฮูป) ชู้ตลูกบาส วาดภาพต้นไม้ เหยียดลูกโป่ง และให้นักท่องเที่ยวนอนให้ช้างเดินข้าม ฯลฯ ...




ได้เวลาไปทำอาหารกันแล้ว (ประมาณ 12.00 น.) ... น้องแบล็ก น้องเบรส และน้องผู้หญิง(ลืมถามชื่อ) พาเรานั่งรถไปชมสวนนงนุช 2 กันค่ะ ...นั่งรถชมวิวไปค่ะ เพราะสวนนงนุช 2 จะอยู่อีกโซนเลยค่ะ (ประมาณ 1 กิโลเมตร ?) ระหว่างนั่งรถชมวิว น้องผู้หญิง ทำหน้าที่ไกด์(เหมือนนำเที่ยวเลย) อธิบายสิ่งที่เห็นรอบๆ ตัวเรา(2 ข้างทาง)

มีอะไรบ้างนะ ?

...รูปปั้นผลไม้ขนาดใหญ่(มีร้านขายผลไม้ด้วยค่ะ) ลานจอดรถที่จุรถได้ประมาณ 5,000 คัน มีที่เล่นน้ำสงกานต์ ลอยกระทง ลานคอนเสิร์ต(จัดเลี้ยงได้) ห้องประชุม สัมมนา จัดงานเลี้ยงต่างๆ(จุคนได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 คน) ห้องอาหารสำหรับจัดบุฟเฟ่ต์ผลไม้(ทัวร์จีนมาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1,000-3,000 คนต่อวัน) สวนเกษตรปลอดสารพิษ รูปปั้นผลไม้นานาพันธุ์ (พร้อมต้นจริงอยู่ข้างๆ) โรงหมักปุ่ยชีวภาพเพื่อใช้รดผักผลไม้ โรงเรือนสำหรับหั่นผักและล้างผัก เพื่อส่งไปยังห้องอาหารพร้อมให้รับประทานได้เลย









ขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวนนงนุช 2 นิดนึงนะคะ เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดที่เปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะทัวร์จีน และชาวต่างชาติ ให้เข้ามาใช้บริการ(กินบุฟเฟ่ต์ผลไม้ เรียนรู้ ทำอาหาร ฯ) แต่จะยังไม่เปิดเป็นสาธารณะมากนัก จะเปิดบริการให้กับลูกค้าที่เป็นหมู่คณะ หรือองค์กรต่างๆ ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ ซึ่งจะมีการทำอาหาร ปลูกผัก น้ำหมักผลไม้ ปั้นดิน(สอนโดยช่างสิบหมู่)

มาต่อกันที่ห้องครัวเลยนะคะ ... เตรียมตัวเป็นเชฟกันค่ะ

กิจกรรมทำอาหาร วันนี้เชฟสอน 2 เมนู ...สลัดโรล กับแกงเขียวหวานไก่ ... ทำกันเลยค่ะ เสร็จแล้วเราจะได้กินข้าวเที่ยงจากฝีมือของเราเอง ...เชฟสอนเพื่อให้เราไปต่อยอดได้ค่ะ ...

สลัดโรล ...ลงมือทำตามเชฟเลยค่ะ ...เราไม่รู้มาก่อนเลยว่า มีเทคนิคและวิธีการม้วนที่ทำให้สลัดออกมาสวยงามได้อย่างนี้ เราทำได้สวยค่ะ (เชฟกดไลค์ให้ด้วยนะ) อร่อยเมื่อกินคู่กับน้ำสลัดที่เชฟปรุงไว้แล้ว มี 3 รสชาติ แต่เราชอบน้ำสลัดธัญพืชมากกว่า (รู้สึกได้ถึงกลิ่นถั่ว โหระพา กระเทียม ฯ) ...







แกงเขียวหวานไก่ ...ประจำที่กันเลยค่ะ เปิดเตา ทำตามเชฟกันเลยค่ะ ...เราได้เรียนรู้ว่าจะต้องใส่อะไรก่อน หลัง ซึ่งเชฟเตรียมส่วนผสมไว้อย่างลงตัวสำหรับ 1 หม้อ (1 ถ้วย) ... อร่อยได้ด้วยฝีมือเราทำ (ส่วนผสมเชฟเตรียม)





ไปชมโรงปั้นดินกันต่อ... อยู่ถัดจากเรือนทำอาหาร(ห้องครัว)ไปนิดเดียว ...มีรูปปั้นดินเผามากมาย หลายแบบ หลากสไตล์ ไม่เหมือนใคร บางชิ้นมีสลักชื่อด้วยค่ะ (จากนักเรียนที่มาเรียนรู้ ปั้นจากจินตนาการของตัวเอง) ... น้องช่าง(สิบหมู่) สาธิตการปั้นให้เราดูกันค่ะ (น่าทึ่ง)






ได้เวลาต้องกลับไปที่สวนนงนุช 1 กันแล้วนะคะ ...รถมาแล้ว น้องสาวคนสวย ทำหน้าที่ไกด์นำเที่ยวให้เราอีกเช่นเคย ตั้งแต่ห้องครัว(นงนุช 2)ไปถึงบริเวณจุดจอดรถชมวิว(นงนุช 1) ...จากนั้น น้องแบล็ก ทำหน้าที่ไกด์พาเข้าไปชมสวนต่างๆ ต่อค่ะ ...มีอะไรบ้างนะ ?

ผ่านต้นปรง และปาล์ม (เขาบอกว่า...ที่สวนนงนุชแห่งนี้เป็นแหล่งที่รวบรวมพันธุ์ปรงและปาล์มมากที่สุดในโลกมีประมาณ 1,000 กว่าชนิด)  ผ่านสวนจำลองสโตนเฮ้นจ์   สวนปาล์มโลกฝั่งตรงข้ามมีต้นมะพร้าวทะเล(ลูกมะพร้าวมีลักษณะคล้ายก้นสาว)   ต้นตะโก   สวนพฤกษศาสตร์  แปลงเพาะตะบองเพชร   สวนชวนชม ฯลฯ











สวนไดโนเสาร์ คือจุดดรอปรถให้เราลงไปถ่ายรูป เดินเล่นกัน และถ้าหากว่าจะกลับไปยังจุดนัดพบ เราสามารถขึ้นรถคันไหนก็ได้ เพียงแสดงบัตรผ่าน (450 บาท) ที่เราซื้อมาให้คนขับดูก็ขึ้นได้แล้วค่ะ

เขาบอกว่า... สวนไดโนเสาร์แห่งนี้เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยนะคะ มีไดโนเสาร์(จำลอง)มากมาย หลากหลายสายพันธุ์ เล็ก ใหญ่ สวนนี้เหมาะอย่างยิ่งที่ครอบครัวจะพาลูกหลานมาเที่ยวชมกันค่ะ ...และบริเวณใกล้จุดดรอปรถ จะมีอาคารกระจก 2 ชั้น ซึ่งชั้นบนขายอาหาร ชั้นล่างขายเครื่องดื่ม กาแฟ ขนม ขายของเล่น และของที่ระลึกต่างๆ ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปไดโนเสาร์ ฯลฯ (เหนื่อยนักพักก่อนค่ะ)







ขึ้นไปเดินบนสกายวอล์คกันค่ะ ...สกายวอล์ค เป็นสะพานเชื่อมถึงกันในแต่ละจุด แต่เราเดินไม่ทั่วถึงเลยค่ะ ...ได้เดินเฉพาะจากจุดจอดรถชมวิว ไปจนถึงอาคารจัดแสดงรถแปลกเท่านั้นเอง ซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 (เดินบนทางเชื่อมเข้าไปได้เลยค่ะ ... อาคารสีฟ้าตามรูปค่ะ)

ก้าวเท้าผ่านประตูเข้ามา ...เหมือนฝันเลยค่ะ ทำไมรถถึงเยอะขนาดนี้ รถโบราณ รถสปอร์ต รถจักรยานก็มี ...นอกจากนี้ย้งมีร้านกาแฟ ไว้คอยบริการด้วยนะคะ(เหนื่อยนักพักจิบกาแฟก่อน?)










หมดเวลาแล้วค่ะ(นัดหมาย 15.30 น.) เดินไม่ทั่วถึงเลยจริงๆ สงสัยว่าคราวหน้าเราคงต้องกลับไปใหม่แล้วละมัง และจะขอค้างคืนเลยค่ะ(ไปเสาร์ กลับอาทิตย์ โดยรถไฟนี่แหละค่ะ สะดวกดี) ...ที่สวนนงนุชแห่งนี้ เขามีบ้านพักรีสอร์ทภายในสวนด้วยนะ (ไว้ได้ไปแล้วจะเล่าให้ฟังค่ะ)

15.30 น. กลับมาพบกันที่จุดจอดรถชมวิวบริเวณหน้าโรงละครนงนุชเธียร์เตอร์ ...รวมตัวเกือบครบ (ยังขาดอีก 2 คน ...ที่ไปรอผิดจุดนัด) 15.40 น. ลุงคนขับขอพาพวกเราไปส่งไว้ที่สถานีรถไฟก่อน (รถวิ่ง 5 นาที) จากนั้นก็กลับไปรับอีก 2 คนกลับมาส่งได้ทันเวลา

16.00 น. รถไฟมาแล้วค่ะ ... กลับก่อนนะคะ ... บ๊าย บาย โอกาสหน้าจะมาใหม่ ...



บอกเลยว่า... ทริปเที่ยวด้วยตนเองโดยรถไฟไทยครั้งนี้ คุ้มยิ่งกว่าคุ้มเลยค่ะ (ขากลับหลับตลอด ...ก็แอร์เย็นสบายจริงๆ) 


-------------------------------------

ข้อดีของการเที่ยวโดยรถไฟ

*ไม่ต้องขับรถไปเอง สะดวก(รถไม่ติด) ถึงจุดหมายตรงเวลา
* ค่าใช้จ่าย 790 บาท/คน/ทริป(เที่ยวด้วยตนเอง) ... ประกอบด้วย 1. ราคาค่าตั๋วรถไฟ(ไม่แพงมาก) ไป-กลับ รวม 340 บาท (ขาละ 170 บาท)  2. ซื้อแพคเกจเข้าชมสวนนงนุชในราคา 450 บาท (จากปกติ 800 บาท)  ... 3. ค่ากิน-ช้อป (แล้วแต่อัธยาศัย)
* รถไฟมีวิ่งทุกวันนะคะ แต่ขบวนพิเศษมีเฉพาะ เสาร์ - อาทิตย์ (ปรับอากาศ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Bottom Ad [Post Page]

| Designed by Colorlib